หมอฟันโลกที่1 เหี้ยจริงคะ​ขอยืนยัน​ว่ามันจับตรวจx หมดไม่สนลูกใคร​ แค่ไปขูดหินปูน​ มันจับxหมด​ เหี้ย​จริงคะ​ จากค่ารักษาพยาบาล​นิดหน่อย​กลายเป็นบาน​ปลายทุกที​ดอกจิก

ตรงนี้ไม่จริงค่ะ ถ้าไม่ฉุกเฉิน ต้องเข้าคิวตรวจวันธรรมดา

พูดถึงหมอฟัน 90%ทั้งในและตปท เป็นคลินิกเอกชน
เอกชนก็ต้องทำเพื่อเอากำไรนะคะ

การเอ็กเรย์ฟันมันก็จำเป็นอยู่ บางอย่างมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า
ถ้าซีเรียสเรื่องเงินจ่ายเอง บอกหมอไปเลย อย่าอายค่ะ

ลืมบอก เราอายุ 49 นะ ยังไม่แก่

++++

ที่อเมริกา หาหมอเฉพาะทางทีนึงต้องนัดล่วงหน้า 3-6 เดือน 555

หาหมอก็ต้องขับไปที่นึง จะไปทำ imaging ก็ต้องขับไปอีกที่นึง จะทำ biopsy ชิ้นเนื้อก็ต้องขับไปอีกที่นึง จะไปรับยาก็ต้องขับไปอีกที่นึง! สรุปต้องไป 4 สถานที่ ยุ่งยากมาก ไม่เหมือนเมืองไทยเนอะไปโรงพยาบาลที่เดียวครบจบทุกอย่างแถมถูกกว่ากัน 10 เท่า

หลายคนบอกเงินคนเมกันเดือนเกือบแสนมาเทียบกับค่าเงินไทยเยอะมาก
แต่ไม่เสือกคิดเรื่องอัตราระหว่างค่าครองชีพที่ต่างกันลิบลับ

+++
เธอขา เกือบแสนไม่มีหรอก งานบริษัททั่วไปที่รู้มาก็ต้องสองแสนขึ้นหมดแล้วตอนนี้ ชั้นความรู้น้อย จบแค่ ปวสที่เมืองไทย มาเป็นพนักงานธุรการธรรมดาที่นี่ยังได้ 6,500 USD ต่อเดือนเลย (ฐานเงินเดือนต่ำสุดของบริษัทแล้วนะ)

ยอมรับนะว่าอยู่ที่นี่สร้างตัวได้ง่าย หาเงินได้ง่ายมากและเยอะมาก แต่เธอลองคิดดู ไหนจะภาษี 32/35/37% ไหนจะ insurance บ้าน รถ สุขภาพ ต่างๆนานา ไม่รวม tip และ tax ต่างๆ ชีวิตก็ต้องอยู่กันไป ชั้นยื่นใบสมัครงานที่เมืองไทยมา 2.5 ปี ของเงินเดือน 35000-40,000 บาท ไม่มีบริษัทไหนเรียกเลย (ย้ำ ไม่มีเรียกสัมพาดเลยซักบริษัทเดียว) ไม่รู้เป็นเพราะชั้นอายุเยอะเกือบ 50 ปีหรือป่าว ตอนนี้ก็เลยติดแหงกอยู่ที่นี่ ไปไหนไม่ได้ กลับไปก็ไม่รู้จะทำอะไร

หยิ่งยโสจองหองไม่มีใครเกิน

ไม่ว่าหล่อนจะเป็นใคร เมื่อมีเหตุฉุกเฉิน นางจะให้หล่อนพบหมอก่อนได้เลย แต่ต้องรอรอรอรอจนหีแหกนะคะ อย่างต่ำ 4-6 ชั่วโมง แต่ถ้าไม่ฉุกเฉิน ทำนัดเหมือนกับทุกประเทศในอียู ก็ต้องรอหน่อย

ฝรั่งเศสอาจจะขึ้นชื่อเรื่องขโมยขะโจร แต่เรื่องระบบสวัสดิการการรักษาพยาบาล นางยืนหนึ่งจริง

สิ่งที่มันเหนือกว่าโลกที่ 3 คือ พาสปอร์ตไม่ต้องขอวีซ่า , ระบบสวัสดิการต่างๆ , ค่าเงิน แค่นั้นเองค่ะ ที่เหลือไม่ได้เริ่ดขนาดนั้น แต่ค่าเงินนี่ต้องยอมค่ะเพราะกลับไทยคือรู้สึกรวยทันที