คนไทยเชิดชูสถาบันกษัตริย์ กองทัพ และคนรวย ผ่านการล้างสมองในระบบการศึกษา โฆษณาช่วยเชื่อในทีวี นิยาย ละคร นักคิดนักเขียนซีไรท์กลายเป็นมือเป็นตีนให้ชนชั้นนำ เชิดชูแนวคิดอำนาจนิยม เขาทำให้คนชินกับระบบอำนาจนิยมมาหลายสิบปี มียุคนึง ที่คนไทยนั่งดูฉากละครที่นางเอกถูกพระเอกข่มขืนได้อย่างหน้าตาเฉย นั้นคือสัญลักษณ์ของอำนาจนิยมรูปแบบหนึ่ง ในฝรั่งเศส ในอังกฤษ เขาบอกว่าการข่มขืนคืออาชญากรรม แต่ในไทยคนดูชาวไทยฟิน จิกหมอน ชอบ บอกเอาอีก เอาอีก และผลิตซ้ำออกมาให้ลูกหลานดูอย่างน่าตาเฉย ไม่มีการเซ็นเซอร์ใดๆ

สังคมไทยเชิดชูอำนาจนิยม แต่ไม่ค่อยเชิดชูประชาชนด้วยกัน ไม่ให้ความสำคัญในเรื่องเสรีภาพ ความเสมอภาค ความหลากหลาย และไม่เคารพระบอบประชาธิปไตย พอเป็นแบบนี้แล้ว จึงไม่แปลก ที่การสู้ในไทย จะใช้เวลานานกว่าคนในยุโรป ในอเมริกา

ไทยมีความพยายามจะเปลี่ยนให้ตัวเองเป็นประชาธิปไตย อีกครั้งก็ตอน 2540 จนได้ไทยรักไทยมา แต่ก็พัฒนาไปได้ไม่ถึงไหน กลับมาเป็นเผด็จการอีก

เอาจริงสถาบันกษัตริย์ไทยไม่เท่าไรหรอก แต่ที่เหี้ยคือพวกทหารไทย ที่ชอบมายุ่งการเมืองของพลเรือน เอาสถาบันมาโหนทุกยุค เพื่อสร้างความชอบธรรมในการยึดอำนาจ และ กำจัดนักการเมืองที่มาจากประชาชน นักการเมืองที่เข้ามาแล้วกระทบผลประโยชน์ที่พวกมันเคยได้ มันจะกำจัดทิ้ง ทำแบบนี้พร่ำเพรื่อ แล้วโหนเจ้า จนประชาชนเริ่มเสื่อมศรัทธาในสถาบันกษัตริย์ไทยซะเอง

แต่ในอนาคตประชาชนคนไทยชนะแน่ เพราะความเหี้ยและโง่ของพวกทหารและรอยัลลิสต์ไทย ต้นทุนในการทำรัฐประหาร มันเริ่มเหลือน้อยลงทุกวัน สุดท้ายแล้วมันจะไม่มีความชอบธรรม เพราะประชาชนไม่เอาด้วยแล้ว

พวกอำนาจเก่า ที่จะกลัวประชาธิปไตย ไม่ใช่เจ้าเลย แต่มันคือกลุ่มคนที่ได้ผลประโยชน์จากการเกาะเจ้า โหนเจ้าหาแดกมากกว่า อีพวกนี้แหละที่จะอวสาน เจ้ายังไงเขาก็ยังอยู่ต่อไปได้

มึงดูกษัตริย์อังกฤษสิ เขาปฎิรูปตัวเองเข้ากับประชาธิปไตย กับยุคสมัยใหม่ กับการที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ได้ เขาก็ยังอยู่ได้ แต่อีที่อยู่ไม่ได้และสลายไป คือขบวนการเกาะควีนหาแดกเช่นพวก ขุนนาง ทหาร และกลุ่มทุนบางกลุ่มของอังกฤษ เพราะพอไม่สามารถเอาเจ้าไว้โหนเป็นเกราะป้องกันตัวเอง พวกมันก็โดนแหกหี โดนลากใส้ หมดความชอบธรรมในการทำอะไรบางอย่าง ที่เอื้อให้มันได้ผลประโยชน์