>>พิษตะกั่วมีจริงค่ะไม่เถียง
>>แต่มึงจะยกงานวิจัยมาใช้ด่าคนแต่เสือกเอา study
>>ของอเมริกามาใช้ด่าอีตัวป่วนในไทย มันไม่ใช่อ่ะซิส
>>ถ้าจะอ้างอิงงานวิจัยเอามาใช้ด่าว่ามันบ้าจากพิษตะกั่วต้องหาจากงานวิจัยไทยค่ะที่กลุ่มสตั๊ดดี้เป็นคนในภูมิภาคนั้นๆ
>>อเมริกากับไทยไม่เหมือนกันจะยกมาใช้ไม่ได้
>
>
>ป้าเข้าใจคำคำว่า universally applicable ไหมค่ะ
>ลองอ่านเนื้อหาข้อมูลของไทยดูนะค่ะ มันก็เหมือนกัน
>เค้าก็ดึงมาจากข้อมูลจากตปท.
>คุณป้าได้อ่านท้าย PDF ไหมค่ะ
>ผู้เชี่ยวชาญพวกนั้นเค้าเรียกตัวเองว่าอะไร
>"ผู้จัดทำเนื้อหา" เค้าไม่ได้เรียกตัวเองว่า
>ผู้ทำการทดลองศึกษาวิจัยนะค่ะ
>ผลการศึกษาวิจัยเหล่านี้ถึงมีอยู่ใน public domain แล้วก็จริง
>แต่....
>ก็ควรมีมารยาทให้เครดิตและบอก references
>ที่เอามาจัดทำเนื้อหาด้วย
>การศึกษาวิจัยเกี่ยวกับคน
>มันจะใช้สรุปผลในวารสารการแพทย์และเอามาอ้างอิงได้
>มันต้อง universally applicable กับ homo sapiens ทั่วโลก
>หรือป้าจะบอกว่าตัวเหี้ยมันมีโครโมโซมเกินมาอีก 2 คู่ +
>มียีนส์เหี้ยผสมอีกด้วยหรอค่ะ
>วัคซีนที่ทดลองในเมกา-ในอเมริกาใต้แบบโควิด
>เค้าก็ส่งขายทั่วโลกให้คนทั้งโลกฉีด
>ยาที่เค้าพบว่าก่อให้เกิดมะเร็งในคนในเมกา เวลาเค้าถอด
>เค้าก็ถอดทั่วโลก แบบ ranitidine
>ถ้าจะบอกว่าตัวป่วนมันอ่านอังกฤษไม่ออก มันก็ยิ่งตอกย้ำไงค่ะ
>ว่ามันได้รับผลกระทบจากตะกั่วจริง ๆ
>ขอบคุณนะค่ะที่กรุณาเอาเอกสารภาษาไทยมาเบิกเนตรให้มันรู้ตัวเองคะ
>ว่ามันไอคิวต่ำและต่อต้านสังคม
>
>
>...
>They who laugh last, laugh loudest 555
>...
>

อ้างแบบนี้เอางานวิจัยผลกระทบจากแสงยูวีในชาวสก๊อตแลนด์มาใช้กับชาวโซมาเลียก็ได้สินะคะ เชื้อชาติ แหล่งภูมิศาสตร์ โภชนาการไม่ส่งผลต่อความผันผวนเหรอ
มาใช้กับ