เห็นว่านำนักงานใหญ่ที่เชี่ยงไฮ้เป็นตึกร้างแล้ว

สมน้ำหน้า บทเรียนก็เคยมี รถจีน เกาหลี มาเลเซีย เคยมากอบโกยไปเมื่อ 20 กว่าปีก่อน แล้วโดนลอยแพปิดศูนย์หนี จะกี่ยุคสมัยก็ยังโง่โดนหลอก ซื้อรถดูแต่โชว์รูมโรยผักชีไม่ชะโงกหน้าเข้าไปดูศูนย์บริการซ่อมตัวถังบ้าง

รถจีนปัญหาคล้ายๆกันคือไม่ค่อยสต๊อกอะไหล่รอนานเป็นเดือนหมด ไม่เหมือนรถญี่ปุ่นถ้าเป็นรุ่นดัง
นิมีอะไหล่พร้อมเลยไม่ต้องรอ รถจีนราคาถูกก็จริงแต่บริการหลังขายสู้รถญี่ปุ่นไม่ได้เลย เขี้ยวลากดิน
ลวดลายเยอะมันคงไม่รู้ว่าตลาดไทยโหดแค่ไหน รถยุโรป รถเกาหลีม้วนเสื่อกลับบ้านไปกี่แบรนด์แล้ว
ถ้าบริการหลังขายไม่ดีคือจบขายได้รอบเดียว
เห็นเค้าว่าการใช้รถของจีนกับไทยไม่เหมือนกันจีนรถถูกไม่ค่อยซ่อมใช้ 4-5 ปีเปลี่ยนคันใหม่มันเลยไม่ค่อยมี
อะไหล่ ต่างจากไทยมักใช้รถกันนานๆเสียก็ซ่อมอะไรแบบนี้ถ้าตีโจทย์ตรงนี้ไม่แตกคือจบเลยรถจีน

สภาพรถจีน แม้แต่ยี่ห้อที่ขายดีที่สุด (B...) ยังรออะไหล่เป็นเดือน ๆ เลยค่ะ แล้วแบรนด์ที่ขายได้หลัก 100 คัน จะไปหวังอะไรคะ

ข้อดีของรถญี่ปุ่นคืออะไหล่เยอะ สต็อกเยอะ เพราะรุ่นนึงนางขายยาว ขายกันเป็น 10 ปี แค่ไมเนอร์เชนจ์ทุกปีสองปี

ส่วนรถจีนออกเทคโนโลยีใหม่ตลอดๆ เปลี่ยนรุ่นเร็ว แข็งขันรุนแรง stock อะไหล่น้อยเพราะเปลี่ยนเร็ว บริษัทไหนทำไม่ถึงก็ต้องออกจากตลาดไป

ใช้ 3D printing ทำอะไหล่เองค่ะอีแก่ทาสเจ๊กขากถุยเสินเจิ้น สมน้ำหน้า